พระปิดตาหลวงพ่อปาน วัดเครือวัลย์ พิมพ์กลางนิยม

หลวงพ่อปาน พุทธรกฺชิโต สุดยอดตำนานผู้สือทอดผง เมตตามหาเสน่ห์ ลวงพ่อเเก้ว วัดเครือวัลย์ เป็นตำนานเมตตามหาเสน่ห์แรง

พระปิดตาพิมพ์กลางนิยม เนื้อผงหลังแบบหลวงพ่อปาน วัดเครือวัลย์ จ.ชลบุรี

หลวงพ่อปาน วัดเครือวัลย์ ท่านเป็นเพียงผู้เดี่ยวที่ได้สืบทอดผงพุทธเก่า ของหลวงปู่เเก้ว วัดเครือวัลย์ พระเครื่องของท่านประสบการณ์สูง เด้นในด้านเมตตา มหาเสน่ห์เป็นเลิศ เมื่อดูจากมวลสารและวัสดุต่างๆ ที่นำมาเป็นส่วนผสมเกือบทุกอย่าง ล้วนมุ่งเน้นไปทางด้านเมตตามหานิยมทั้งสิ้น โดยเฉพาะผงอิทธิเจ จะมีอนุภาพทางด้านเมตตามหาเสน่ห์อย่างแรง เสมือนพระปิดตาหลวงปู่เเก้ว ท่านเป็นเพียงผู้เดี่ยวที่ได้สืบทอดผงพุทธเก่า ของหลวงปู่เเก้ว วัดเครือวัลย์ประสบการณ์เรื่องเมตตา คนโบราณบอกว่าถ้าพระหลวงพ่อแก้วหล่นใส่โอ่งบ้านไหนบ้านนั้นยิ่งมีลูกสาวด้วย เป็นอันต้องเทน้ำในโอ่งทิ้งทั้งหมดเพราะไม่นั้น รักหลงกันทั้งบ้านหลวงพ่อปานท่านเป็น ๑ เดียว สุดยอดตำนานผู้สืบทอดผงเมตตามหาเสน่ห์ของ หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์

" พระเครื่องของฉันดีทุกอย่าง

ใครมีติดตัว ไม่มีวันอับจน

ประกอบสัมมาอาชีพก็ค้าขายดี

มีคนเอ็นดูและเมตตา "


พระปิดตาหรือพระควัมปติ

๑ ในอสีติมหาสาวก หรือ ยอดแห่งสาวก ๘๐ องค์ ที่ทรงเอตะทัคคะ คือ มีความเป็นเลิศพระปิดตา เมือชลสร้างเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าผู้ทรงเอตทัคคะ (เป็นเลิศ) ๘๐ รูปของท่าน ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เป็นเลิศทางโภคทรัพย์ และลาภสักการะ เเละเป็นผู้ที่มีความงดงามแห่งร่างกาย พร้อมทั้งมีปัญญาเฉียบแหลม โบราณาจารย์จึงได้สร้างรูปจำลองของพระสังกัจจายน์หรือพระปิดตาในปาง “เข้านิโรธสมบัติ”

โดยใช้มือทั้งสองข้างปิดตา หรือจินตนาการใช้มือ ๙ มือ ปิดทวารทั้ง ๙ เพื่อปิดกั้นอาสวะกิเลศแห่งทวารเข้าออกทั้ง ๙ ของร่างกาย เพื่อทำให้เกิดสมาธิเพราะจะทำให้เกิดปัญญาในการแก้ไขปัญหาหรืออุปสรรคให้บรรลุผลที่ดีต่อไป

ประเทศไทย เริ่มมีการสร้างพระปิดตามาตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาตอนปลาย จากหลักฐานปรากฏพบพระปิดตายุคแรก เป็นเนื้อโลหะ คือ “พระปิดตากรุวัดท้ายย่าน อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท” และมาเริ่มเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์เรื่อยมา โดยวัสดุที่ใช้สร้างองค์พร มีทั้งเนื้อชินตะกั่ว เนื้อผงคลุกรัก เนื้อผงใบลาน เนื้อผงมวลสาร เนื้อสัมฤทธิ์ เนื้อเมฆพัด และ เนื้อเมฆสิทธิ์

ในกระบวนพระปิดตาของพระเกจิคณาจารย์แต่โบราณที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมนั้นมีหลายสำนักด้วยกัน แต่ถ้าพูดกันถึง “พระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก” ทุกคนต้องนึกถึง พระปิดตา วัดเครือวัลย์ จ.ชลบุรี เป็นอันดับแรก ถือเป็นสุดยอดพระปิดตาเนื้อผงเป็นที่กล่าวขานทั้งโชคลาภ โภคทรัพย์ และคงกระพันชาตรี
โด่ดเด่นเรื่อง ‘มหาเสน่ห์และเมตตามหานิยม ผู้หรับผู้ใหญ่เล่าสืบต่อกันว่า แค่เศษผงปลิวก็เป็นเรื่องแล้ว ตำนานพระปิดตา วัดเครือวัลย์ได้รับสมญาว่า ราชาแห่งพระปิดตาเนื้อผง และได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในชุด “เบญจภาคีพระปิดตา”

ประวัติหลวงพ่อปาน พุทธรกฺชิโต - วัดเครือวัลย์ ชลบุรี

ท่านชื่อปาน นามสกุลจันทร์สระ เกิดเมื่อปีพุทธศักราช ปี ๒๔๔๑ ที่บ้านห้วย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี คุณพ่อชื่อ เขียน จันทร์สุระ มารดาชื่อ เตียน จันทร์สุระ ครอบครัวของท่านทำอาชีพสวนตาล ในวัยเด็กท่านเป็นโรคฝีดาษเเละไข้ทรพิษ พุพองเต็มตัวจนรามไปถึงตาซ้ายเกือบจะบอด เเทบมองไม่เห็นที่ท่านมีชีวิตยืนยาวก็ได้รับการดูเเลรักษาจากน้ำมนต์เเละยาเเผนโบราณ ของหลวงพ่อเเก้ว วัดเครือวัลย์

เมื่อวัยหนุ่ม ท่านช่วยเหลือครอบครัวประกอบอาชีพสวนตาล ท่านเป็นคนปาดตาลที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งเลยทีเดียว ชีวิตของท่านต้องดิ้นรนต่อสู้ เพราะอาชีพทำสวนตาลไม่พอกับครอบครัว ท่านช่วยเหลือพ่อเเม่ของท่านจนมีฐานะดี ไม่เป็นหนี้สินใคร จนทันทีอายุครบบวชจึงได้บวช ที่วัดเครือวัลย์ โดยมีหลวงพ่อถันเป็นพระอุปัชฌาย์ภายหลังอุปสมบทได้รับฉายาว่า พุทธรักโขติ

ในสมัยนั้นท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยเเละสวดพระปาติโมกข์จนคลองเเคล่ว ท่านอยู่ได้ระยะหนึ่ง เเละท่านจึงไปจำพรรษาที่วัดอื่นใกล้กับตัวเมืองชลบุรี หลังจากนั้นหลวงพ่อถันขอให้ท่านกลับมาจำวัดเพราะหลวงพ่อปานท่านเป็นพระที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง มีสิ่งใดผุพังท่านมักทำนุบำรุงซ่อมแซมเป็นอย่างมาก ด้วยความรักความเมตตาของหลวงพ่อถัน จึงได้สอนวิชาอาคมให้หลายอย่างเรียกกว่าเกือบจะหมดภูมิคุ้มกัน

วัดเครือวัลย์เป็นจุดศูนย์รวมการเดินทางในสมัยนั้น หลวงพ่อปานท่านจึงเคยได้ฝากเนื้อฝากตัวเป็นศิษย์เเละศึกษาวิชาการสร้างปลัดขิกของหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ วิชาทำผ้ายันต์พัดโบกจากหลวงพ่อโต วัดเขากระโดน เล่าเรียนพระธรรมวินัย

พุทธเวทย์อักขระเลขยันต์วิชาทำตะกุด การทำน้ำมนต์จากหลวงพ่อถัน ศึกษาวิชาเเก้คุณไสยจากพระครูศรีพนัสนิคม วัดพลับ พระอาจารย์อีกคือหลวงท่านอาทิ หลวงพ่อผุย วัดหน้าพระธาตุ อำเภอพัสนิคม หลวงพ่อจั่น วัดเสม็ด หลวงพ่อฮวด หลวงพ่อพูน วัดตาลล้อม จังหวังชลบุรี หลวงพ่อพ่อเปิ้น วัดบ้านเก่า อำพานทองจังหวัดชลบุรี

เเละที่หลวงพ่อปาน ท่านมีชื่อเสียงอย่างมากคือการรักษาคนที่ถูกสุนัขบ้ากัด เนื่องด้วยสมัยนั้นหาหมอเเผนโบราณรักษายาก เเต่หลวงพ่อปานท่านรักษาได้หายขาด ในเรื่องยาเเผนโบราณท่านเก่งมากเรื่องการรักษาผู้ถูกหมาบ้ากัดรับรองเลยว่าท่านรักษาหายขาด เเละท่านยังได้ศึกษายาเเผนโบราณอีกหลายอย่าง

ในสมัยนั้นนิยมการเดินธุดงด์ เพราะพระเดินธุดงด์ ด้วยความต้องการบำเพ็ญกุศล ต้องการหาความเงียบความสงบ ศึกษาต่อสู้กับความหนาวเย็นเเละความร้อนของเเสงเเดด ในการเดินธุดงค์ท่านเดินไปหลายจังวัดในเเถบจังหวัดชลบุรี ระยอง ตราด ฉะเชิงเทรา

ท่านได้รักษาคนบ้าที่ถูกคุณไสยชาวบ้านบอกว่าผู้ชายคนนั้นเมื่อก่อนมีนิสัยเกเรเป็นอันธพาล ชอบฉุดบุตรสาวของชาวบ้านไปข่มขื่น ลูกสาวของคนในหมู่บ้านไปข่มขืน คนในหมู่บ้านได้รับความเจ็บใจกันหลายครั้ง ครั้นจะต่อสู้หรือทำร้ายก็สู้ไม่ได้เพราะไม่มีเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือยุ่งเกี่ยว
หลวงพ่อปานท่านได้รับรู้ข่าวเข้าจึงเห็นเเล้วเกิดความสังเวชอย่างยิ่ง ท่านจึงสอบถามจนรู้เรื่องราวทั้งหมด ได้ความว่าอยู่มาวันหนึ่งชายคนนั้นได้ป่วยเกิดเสียสติและเป็นบ้า

ด้วยความเจ็บเเค้นของผู้ที่ถูกกระทำ จึงไปว่าจ้างหมอที่มีวิชาอาคมใช้คุณไสยทำให้ชายคนนั้นเสียสติ เป็นบ้า โดยใช้วิชาคุณไสยสายเขมร ท่านจึงเดินทางไปยังบ้านของผู้ที่ไปจ้างหมอเขมรหลังจากนั้น ชายผู้จ้างบอกว่าอยากจะให้เเก้ให้ เหมือนกันเเต่หมอที่ว่างจ้างให้ได้ตายไปเเล้ว ท่านขอให้ผู้จ้าง อโหสิกรรม เเล้วท่านตั้งศาลเพียงตาอัญเชิญเทวดาเเละเเละครูอาจาร์ยทำพิธีบูชาครู ทำน้ำพุทธมนต์รักษา ท่ามกลางคนที่ดูกันทั้งหมดหมู่บ้านเเละชายผู้นั้น ให้ชาวบ้านช่วยกันจับผู้นั้นไว้กว่าจะได้รดน้ำมนต์ก็เหนื่อยกันน่าดู ต้องเอาโซ่ล่ามไว้ไม่เช่นนั้นก็รดน้ำมนต์ไม่ได้หลังจากที่รดน้ำมนต์ให้ผู้ชายที่เป็นบ้า รู้สึกเสื้อผ้าที่ไม่มีจะปิดกาย อับอายชาวบ้านเขาเป็นอย่างมาก ก็ต้องเดือนร้อนชาวบ้านสละผ้าขาวม้า ให้หลังจากนั้นท่านก็เมตตา รักษาชายคนนั้นจนหายขาด กลับ มาปกติดังเดิม นับเป็นความเมตตา และ บารมีพ่อท่านจริงๆครับ

มีครั้งนึงท่านได้เดินธุดงเพื่อที่จะไป จังหวัดพิษณุโลก เพื่อที่ท่านอยากจะเดินทางไปกราบองค์พระพุทธชินราช มีคนเล่าให้ฟังว่าขบวนรถไฟยังต้องมีเหตุหยุดเพื่อรอรับท่านกลางทางโดยที่ท่านยังไม่ได้เรียกโดยด้วยซ้ำ เป็นเเรงบุญอภินิหารเป็นอย่างยิ่ง ท่านกล่าวว่าที่เค้าจอดรับนั้นฉันไม่ได้เเสดงความขลังให้เขาจอดรับ อิทธิฤทธิ์นั้นต้องใช้ในคราวที่จำเป็นจริงๆ ท่านได้กล่าวกับชาวบ้านไว้

ชื่อเสียงท่านก็มีคนมาหากันมาก ต่างต้องการพระเครื่องพระบูชาของท่าน ที่ท่านสร้างไว้ในก่อนปี พุทธศักราช ๒๕๐๐ มีเเต่ว่าไม่มากนักเป็นพระเนื้อผสมว่านก็มีบางรุ่น การสร้างพระเครื่องเนื้อผสมผงว่าน ท่านได้มาจากการธุดงค์เอามาตากเเดดเเละบดให้ละเอียดเมื่อได้ส่วนผสมที่ต้องการเเละนำพิมพ์พระท่านจัดทำในโบสถ์พอกดพิมพ์ได้ตามต้องการ ท่านก็จะให้พระภายในวัดลงไปร่วมสวดมนต์ด้วย

พระเครื่องของท่านที่สร้างนั้นท่านไม่ค่อยจะมอบให้ใครง่ายๆ ท่านบอกว่านอกจากจะมาขอกัน เเต่ที่ท่านเเจกไปตอนที่ท่านทำบุญอายุครบ ๖๐ ปี นั้นคณะศิษย์ของท่านเป็นผู้จัดการให้เมื่อพระเหลือท่านก็นำมาเก็บไว้ จะทำรุ่นต่อไปก็เอามาปลุกเสกร่วมกัน เเละช่วงที่ท่านกลับมาจากธุดงค์ ท่านได้รับผงอิธิเจในการสร้างพระเครื่องจากหลวงพ่อถัน ท่านได้ส่งมอบต่อผ่านก๋งซิมผู้เป็น
ฆาราวาสผู้เรื่องเวสอีกท่านหนึ่ง เเห่งวัดเครือวัลย์

ประวัติในสมัยเด็กหลวงพ่อปานท่านได้รับน้ำมนต์ ที่พ่อท่านมาขอกับหลวงปู่เเก้ว สมัยท่านยังทารกเพราะท่านเกิดเป็นโรคฝีดาส ลุกลามดวกตาเหลือเพียงหนึ่งข้าง ด้วยท่านเติบโตท่านเลยปวาณาตนเพื่อสระความสุขส่วนตน ดูเเลเพื่อนมนุษย์ทั้งทางโลกเเละทางธรรม

" พระเครื่องของฉันดีทุกอย่างใครมีติดตัว ไม่มีวันอับจน

ประกอบสัมมาอาชีพก็ค้าขายดีมีคนเอ็นดูและเมตตา "

อภินิหารของท่านเคยประสบอุบัติเหตุเเล้วหลายราย ทุกคนต่างบอกรอดตายมาด้วย พระเครื่องของหลวงพ่อปาน วัดเครือวัลย์ แล้วทั้งสิ้น ในช่วงชีวิตบั้นปลายของท่านหลานของท่านมารับท่านไปอยู่ที่สำนักสงฆ์บึงตาต้า อำเภอเเกลงจังหวัดระยอง เพื่อให้หลวงพ่อปานท่านได้พักผ่อน ท่านตากตรำงาน การรักษาโรคช่วยชาวบ้านตลอดเวลา ที่สำนักสงฆ์บึงตาต้า ท่านเคยไปช่วยสร้างไว้ เป็นที่เงียบสงบ เเละพระสงฆ์ที่เดินทางจะเเวะกันตลอด ท่านสอนเเละเเนะนำด้านวิปัสนาอีกด้วย จนเมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน ปีพุทธศักราช ๒๕๒๗ คณะศิษย์เเละทางจังหวัดได้มารับสรีระสังขาร ของท่านมาประชุมเพลิงที่วัดนอก ในตัวเมืองชลบุรี วันนั้นงานเต็มไปด้วยผู้คนมาจากถิ่นต่างๆมากมายล้นหลาม

หลวงพ่อปาน ท่านถือว่าเป็นอีกหนึ่งพระเกจิเเห่ง เมืองชลบุรีที่สร้างพระปิดตาเเละเหรียญรูปเหมือนสร้างอภินิหารประสบการณ์ให้กับผู้ศรัทธาเลื่อมใสเป็นจำนวนมากท่านได้สร้างพระปิดตายุคเเรกราวปีพุทธศักราช ๒๔๘๔ เรื่อยมาจนถึงพุทธศักราช ๒๕๑๗ พุทธลักษณะพิมพ์ทรงมีบางพิมพ์คล้ายพระปิดตาหลวงพ่อเเก้ว วัดเครือวัลย์ เเละพิมพ์ทรงที่เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ ของท่านจะเป็นเเบบสมาธิราบขาเฉียงเป็นบางพิมพ์ ส่วนด้านหลังเป็นหลังเเบบ หลังยันต์เเละหลังพระเข่าจมทั้งสองข้างคล้ายเลข ๘ ท่านได้สร้าง ท่านได้สร้างไว้หลายพิมพ์

ท่านได้ผสมผงอิธิเจเก่าของหลวงพ่อเเก้ว ผงว่านเกษร๑๐๘ ผงมหาราชของหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ผงอิติปิโส ๑๐๘ ของหลวงพ่อพ่อถัน วัดเคลือวัลย์ ผงพุทธคุณมหาลาภหลวงพ่อโต วัดเขากระโดน เเละผงสมเด็จวัดบางขุนพรม ส่วนมากหลวงพ่อปานใช้เวลาว่างหลังจากรักษาคนถูกหมาบ้ากัด และช่วยเหลือชาวบ้าน เพื่อสร้างพระวัตถุมงคลเเต่ไม่มากนักสร้างเสร็จท่านจะนำเข้าไปตากไว้บนกระด้งหรือฝาบาตร ซึ่งมีลูกศิษย์ และพระลูกวัด ช่วยกันผสมตำบดมวรสาร

จากการบอกเล่าของผู้หลักผู้ใหญ่ที่ทันในยุคหลวงพ่อปานนั้น ผู้ได้สัมผัสในบารมีของท่านต่างพูดบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าท่านเป็นพระผู้เปี่ยมด้วยเมตตามาก ท่านเมตตาเที่ยงตรงต่อทุกคนเท่าเทียมกัน วัตถุมงคลของท่านสร้างไว้เป็น มรดกโลกสืบต่อไปในภายภาคหน้า เเละยังได้คุ้มครองต่อศิษย์ผู้ศรัทธา พระปิดตาของท่านให้เเคล้วคลาดปลอดภัยมากมากนักต่อนัก นี้คือพระปิดตาที่สามารถใช้เเทนพระปิดตาของหลวงพ่อเเก้ว วัดเครือวัลย์ ได้แบบสนิทใจ จากคำบอกเล่าประสบการณ์ของผู้ใช้แขวนจริง เพราะพระท่านใส่มวลสารของหลวงพ่อเเก้วไว้มากที่สุด

" พระฉันหายาก พระที่ฉันทำไว้ ถ้าใครนับถือศรัทธาและหากนำไปใช้ในทางที่ดีจะมีลาภเจริญรุ่งเรือง "

การสร้างพระปิดตาเเละผู้สืบทอดผงของหลวงพ่อเเก้ว วัดเครือวัลย์

ท่านก๋งซิม ท่านเป็นฆาราวาสที่ทันยุค หลวงพ่อถันเเละก๋งซิมยังเป็นผู้มอบผงที่ได้รับจากหลวงพ่อถัน ให้หลวงพ่อปานอีกด้วย คนเมืองชลรู้กันดีถึงประสบการณ์เรื่องเมตตา คนโบราณบอกว่าถ้าพระหลวงพ่อแก้วหล่นใส่โอ่งบ้านไหนบ้านนั้นยิ่งมีลูกสาวด้วย เป็นอันต้องเทน้ำในโอ่งทิ้งทั้งหมดเพราะไม่นั้น รักหลงกันทั้งบ้าน

มวลสาร

ท่านได้สืบทอดตำรา การสร้างพระเครื่องพระปิดตา เเละนอกจากมวลสารเก่าหลวงพ่อเเก้ว นั้น ท่านได้รวมรวมว่านอานุภาพแห่งว่านมงคล ๑๐๘ ชนิด เช่น
๑.ว่านตระกูลกวัก
บันทึกไว้ในตำราสมุดข่อยโบราณ กล่าวไว้ว่ามีอานุภาพทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม ดีทางโภคทรัพย์ เป็นสิริมงคลต่อผู้ครอบครอง ประกอบด้วย ว่านกวักพระพุทธเจ้าหลวง ว่านกวักนางพญาใหญ่ ว่านกวักนางพญาเล็ก หรือ ว่านกวักนางพญามหาเศรษฐี ว่านกวักมาคาวดี หรือ ว่านมหาโชค ว่านกวักหงสาวดี ว่านกวักแม่จันทร์ ว่านกวักโพธิ์เงิน ว่านกวักทองใบ ว่านกวักเงิน กวักทอง ว่านกวักเศรษฐีพญาบดินทร์ ว่านกวักนางพญาเผือก โดยเฉพาะว่านกวักนางพญา ถือกันว่า เป็นว่าน ที่มีตระกูลสูงส่งผลทางด้านอำนาจราชศักดิ์ เรียกอีกอย่างว่า ว่านทรงยศ ทรงเกียรติ เป็นสง่าราศีแก่ผู้พบเห็น

๒.ว่านตระกูลเสน่ห์จันทร์
เสน่ห์จันทร์มหาโพธิ์ เสน่ห์จันทร์ขาว เสน่ห์จันทร์แดง เสน่ห์จันทร์เขียว เสน่ห์จันทร์หอม เสน่ห์จันทร์ทอง อานุภาพของว่านตระกูลเสน่ห์จันทร์ จะเด่นทางด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม เป็นที่รักเมตตาแก่ผู้พบเห็น โบราณใช้ทำนางกวัก ค้าขายดี มีโชคลาภ

๓.ว่านตระกูลเศรษฐี
เป็น ว่านที่บ่งบอกในตัวเอง อานุภาพให้คุณทางด้านลาภผล เงินทอง โบราณกล่าวว่า ผู้ใดได้ครอบครอง จะเจริญด้วยฐานะ บริบูรณ์ ด้วย โภคทรัพย์ ข้าทาสบริวาร จัดเป็นตระกูลว่านที่นิยม อย่างยิ่ง โบราณมักจะนำมาปลูกในกระถางที่มีค่า เช่น กระถางลายคราม ดังนั้น จึงเป็นว่านตระกูลสูงอีกประเภทหนึ่งมีดังนี้ ว่านเศรษฐีเรือนนอก ว่านเศรษฐีเรือนใน ว่านเศรษฐีขอด (กอบ ทรัพย์) ว่านเศรษฐีด่าง ว่านเศรษฐีมงคล ว่านมหาเศรษฐี ว่านเศรษฐีจีน ว่านเศรษฐีญวน ว่านเศรษฐีแขก ว่านเศรษฐีใบพาย ว่านเศรษฐีใบโพธิ์ ว่านเศรษฐีเรือนใหญ่ ว่านเศรษฐีเรือนแก้ว

๔.ว่านโกเมน
อานุภาพทางด้านเมตตามหานิยม มีโชคลาภ

๕.ว่านหม่องเล
ว่านนี้ตามตำราพม่ากล่าวว่า มีอานุภาพ เรียกเงินเรียกทองเข้าบ้าน เรียกมิตรมาหาร้านค้าขาย ควรมีว่านชนิดนี้ไว้ครอบครอง

๖.ว่านไก่กุก
อานุภาพ ทางเสน่ห์เมตตานิยม ซึ่งว่านนี้สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม ผู้สร้างพระสมเด็จอันลือชื่อก็ได้ใช้ว่านนี้เป็นส่วนผสมในพระสมเด็จวัดระฆัง ที่ท่านสร้างด้วย

๗.ว่านไก่ฟ้าพญาแล
อานุภาพทางด้านเมตตามหานิยม

๘.ว่านกำแพงเจ็ดชั้น
มีอานุภาพทางด้านคุ้มครอง ป้องกันภัย กันและแก้ คุณไสยภูตผีปีศาจ สิ่งอัปมงคลทั้งปวงไม่ให้กล้ำกราย

๙.ว่านกระแจะจันทร์หงสา
มีอานุภาพทางเสน่ห์เมตตา นิยม เป็นที่รัก เมตตาแก่ผู้พบเห็น

๑๐.ว่านคุ้มรจนา
มีอานุภาพคุ้มครองปกป้องเคหสถาน บ้านเรือนให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข

๑๑.ว่านเครือสาวหลง
เป็น ว่านพิเศษที่มีลักษณะฝอยๆ ไม่มีลำต้น ไม่มีใบ จะเกาะอยู่ตามต้นไม้ขนาดใหญ่ในป่าลึก มีกลิ่นหอมตลอดเวลา มีอานุภาพทางด้านเมตตามหานิยมสูงมาก ซึ่งว่านนี้พระเทพรัตนกวี เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุได้ให้พวกที่หาของป่า และนำมาวางขายในวัดช่วงงานประจำปี ไปหามาจากป่าลึกทางภาคเหนือ

๑๒.ว่านเงินไหลมา
มีอานุภาพเรียกเงินทองให้เข้ามาสู่เคหะสถาน บ้านเรือน ทั้งยังคุ้มครองปกป้อง เป็นว่านนิยมมากของคนไทย

๑๓.ว่านเงาะถอดรูป
มี อิทธิฤทธิ์เมตตามหานิยม เป็นที่รักเมตตาแก่ผู้พบเห็น ดีทางค้าขาย ประดุจเงาะถอดรูป ใครเห็นใครก็รัก แล้วยังมีอานุภาพเรียกลูกค้าเข้ามาสู่ร้านค้าอีกด้วย

๑๔.ว่านช้างพลาย
มีอานุภาพทางเมตตามหานิยม เป็นสง่าราศี ขับเสนียดจัญไร ศัตรูหมู่มาร เป็นเดชอำนาจบารมี

๑๕.ว่านช้างดำ
มีอานุภาพทางคุ้มครองป้องกัน เสมือนเกราะแก้ว คุ้มกัน และ ป้องกันไฟเวทย์มนต์คาถาทำอันตรายไม่ได้

๑๖.ว่านญาณรังษี
มีอานุภาพประดุจพทุธานุภาพแห่งพระพุทธองค์ หัวว่านนี้ มีลักษณะชั้นๆ 3 ชั้น คล้ายพระพุทธรูปประทับนั่งบนรัตนบัลลังก์

๑๗.ว่านถุงเงินถุงทอง
มีอานุภาพทางด้านโภคทรัพย์ ประดุจถุงเงินถุงทอง ในเคหะสถานบ้านเรือนดีทางโชคลาภ และป้องกันคุณไสยต่างๆ

๑๘.ว่านทองไหลมา
เป็นว่านมงคลคู่กัยว่านเงินไหลมา อานุภาพให้ผู้ครอบครองมีโชคลาภอยู่เป็นนิจ

๑๙.ว่านเทพรำพึง
เป็นเอกทางด้านเมตตามหานิยม เป็นสิริมงคลแก่ผู้ครอบครอง

๒๐.ว่านธรรมรักษา
เป็นว่านสิริมงคล โน้มน้าวให้ประพฤติปฏิบัติ อยู่ในศีลธรรม ป้งอกันภัยพิบัติ

๒๑.ว่านนางพญาหงษ์ทอง
เป็นว่านทางเมตตามหานิยม เจรจาสิ่งใดจะเป็นที่พอใจถูกอัธยาศัยกับผู้ที่พบเห็น

๒๒.ว่านนพมาศ
เป็น ว่านเก่าแก่ครั้งกรุงสุโขทัย มีอานุภาพป้องกันเสนียจัญไร คุ้มครองป้องกันภัยพิบัติ เป็นสิริมงคล พร้อมพรั่งทางด้านเมตตานิยม เป็นสง่าราศี

๒๓.ว่านนเรศวร
เป็นว่านที่ทรงอานุภาพ ด้านมหาอำนาจ ตบะเดชะ เป็นที่ยำเกรงต่อศัตรู หมู่มาร และ คุ้มครองปกป้องเป็นเลิศ

๒๔.ว่านน้ำเต้าทอง
เด่นทางเมตตา โชคลาภ ทั้งยังมีคุณทางด้านอยู่ยงคงกระพัน

๒๕.ว่านปัดตลอด
อานุภาพทางด้านแคล้วคลาด ปราศจาก อุปสรรค

๒๖.ว่านปัญจเศวตร
มีอานุภาพด้านคุ้มครอง ปกป้องเป็นตบะบารมี

๒๗ว่านประกายเพชร
ดีทางโชคลาภ เป็นเสน่ห์มหานิยม เจริญด้วยโภคทรัพย์

๒๘.ว่านพญาหัวเสือ
เด่นทางด้านอำนาจราชศักดิ์ เป็นตบะเดชะ นะจังงัง และ คงกระพันชาตรี

๒๙.ว่านพญากาเผือก
เป็นว่านที่ดีทางเรียกโชค เรียกลาภ เด่านเป็นสง่า คือ เมตตาหานิยม

๓๐.ว่านเพชรกลับดำ
อานุภาพเด่นทางแคล้วคลาด ปกป้องจากสิ่งอัปมงคล ไปที่ใดปราศจากอันตราย และกลับถึงเคหะสถานได้เป็นอัศจรรย์

๓๑.ว่านเพชรหลีก
ดีทางแคล้วคลาดจากภยันตราย ศาตราวุธ ทั้งปวง

๓๒.ว่านมหาอุตม์
มีอานุภาพทางด้านคงกระพันชาตรี เป็นว่านเก่าโบราณ

๓๓.ว่านมหาหงษ์แดง
เป็นว่านที่มีสิริมงคล คนโบราณมักพกพากับตัวเวลาเข้าหาเจ้านาย ว่ากันว่าเป็นเสน่ห์มหานิยมยิ่งนัก

๓๔.ว่านมงคลชัย
เป็นว่านที่มีสิริมงคลตามชื่อว่าน ศัตรูหมู่มารมิอยากเข้าใกล้ ก็ด้วยอานุภาพแห่งชัยมงคลของว่านนี้

๓๕.ว่านวาสนาทางลาย
เด่นทางโชคลาภวาสนา เจริญด้วยความสมบูรณ์พูนสุข

๓๖.ว่านแววมยุรา
เป็นว่านที่มีสรรพคุณทางเมตตามหานิยม นำโชคลาภเป็นสิริมงคลแก่บ้านเรือนผู้ครอบครอง

๓๗.ว่านสาริกาลิ้นทอง
มีอานุภาพทางเมตตามหานิยมโบราณใช้โขลกตำผสมกับสีผึ้งทาปาก เพื่อไปติดต่อเจรจาค้าขาย จะเป็นที่เมตตาและสำเร็จตามปรารถนา

๓๘.ว่านกระทู้เจ็ดแบก
เป็นว่านเด่นทางคงกระพันชาตรี นักรบโบราณมักใช้ว่านนี้ในการรพทัพจับศึก

๓๙.ว่านกำบัง
มีอานุภาพป้องกันสรรพภัย คุณไสยเวทย์วิทยาคมที่ประสงค์ร้าย และ แคล้วคลาดปราศจากเหตุร้าย

๔๐.ว่านกงจักรพระอินทร์
เป็นว่านดีทางอยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยมเป็นอำนาจป้องปราบ ข้าศึกศัตรู

๔๑.ว่านขมิ้นขาวปัดตลอด

๔๒.ว่านค้ำคูณ
เป็นว่านดีทางเมตตามหานิยมแก่เคหสถาน บ้านเรือน ค้ำจุนชะตาชีวิต เพิ่มพูนพลัง

๔๓.ว่านเพรชหน้าทั่ง
เป็นว่านเสน่ห์มหานิยมและคงกระพันชาตรี

๔๔.จ่าว่าน
เป็นว่านอานุภาพสูง มีสรรพคุณคุมกำลังว่านต่างๆ ให้ทรงด้วยอานุภาพ ป้องกันเสนียดจัญไร พิษร้ายต่างๆ

๔๕.ว่านจังงัง
เป็นเมตตามหานิยม เป็นที่รักใคร่เมตตาแก่ศัตรูหมู่มารทำให้ไม่กล้าคิดร้าย อำนาจของว่านจะทำให้ศัตรูเกิดจังงัง

๔๖.ว่านดาบหลวง
เป็นว่านที่มีอำนาจป้องกันฟ้าผ่า ป้องกันอันตรายแคล้วคลาดเป็นเยี่ยม เป็นตบะเดชะและเสน่ห์ มหานิยมแก่ผู้พบเห็น

๔๗.ว่านฤษี
ดีทางเสน่ห์มหานิยมยอดเยี่ยม เข้าหาเจ้านายดียิ่งนัก

๔๘.ว่านถอนโมกขศักดิ์
ใช้ดีทางด้านแก้ถอนคุณไสย ยาเบื่อเมาทุกประเภท

๔๙.ว่านเถาวัลย์หลง
ดีทางเจรจาพาที เป็นที่เมตตามหานิยม กลับจากโกรธเป็นรักเมตตา เปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี

๕๐.ว่านเทพรัญจวน
ให้ในทางเมตตามหานิยม เป็นที่รัก เมตตาต่อผู้พบเห็น

๕๑.ว่านนางล้อม
เป็นว่านมหามงคล ป้องกันสรรพสัตว์ทั้งปวง และศัตรูหมู่มาร เมื่อเกิดเรื่องราวใด จะได้รับชัยชนะเสมอ

๕๒.ว่านนางคุ้ม
ป้องกันไฟ และคุ้มกันภยันตรายต่างๆ โบราณกล่าวว่า ว่านนางคุ้มมีไว้คุ้มครองบ้านเรือน เสมือนมีเกราะเพชรไว้ป้องกันภัยถึง ๗ ชั้น

๕๓.ว่านปลาไหลม่วง
เป็นว่านแก้คุณไสย ลมเพลมพัด กันอัปมงคลต่างๆ

๕๔.ว่านเพ็ชรนารายณ์
เป็นว่านตระกูลสูง มีอำนาจตบะเดชะ เพิ่มพูนบารมีและเจริญด้วยยศถาบรรดาศักดิ์

๕๕.ว่านเพ็ชรกลับ
ว่าน นี้มีอานุภาพอยู่ยงคงกระพัน เป็นว่านป้องกันการถูกคุณไสยและแก้อาถรรพ์ ป้องกันอุบัติเหตุ เป็นมงคลแก้วคุ้มครองป้องกันทั้งไปและกลับ ปราศจากอันตราย

๕๖.ว่านพัดโบก
เป็นว่านมหามงคลสูงพร้อมด้วยเมตตา มหานิยม โบราณว่าว่านนี้อยู่บ้านใดจะได้ลาภมหาศาล นำความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่บ้านเรือน

๕๗.ว่านไพรปลุกเสก
อานุภาพเกิดลาภผล ความอุดมสมบูรณ์พูนสุขเจริญรุ่งเรือง ทั้งยังแก้คุณไสย ขับภูติ ผี ปีศาจ

๕๘.ว่านพุทธกัวก
ว่านนี้ดีทางเมตตาและทางการค้า เป็นสิริมงคลแก่สถานที่และผู้ครอบครอง

๕๙.ว่านนางพญาห้าร้อย
มีสรรพคุณทางเสน่ห์เมตตามหานิยม เป็นที่ชื่นชอบในหมู่ชน

๖๐.ว่านพญาจงอาง
อานุภาพด้านกันงูและสัตว์มีพิษ ตลอดจนสรรพภัยทุกชนิดไม่ให้กล้ำกลาย

๖๑.ว่านพระฉิม
เป็นสิริมงคล อุดมด้วยโภคทรัพย์และคงกระพันชาตรี

๖๒.ว่านพะตะบะ
ใช้กันภูติ ผี ปีศาจ มีอานภาพสูงมาก วิญญาณต่างๆ จะไม่เข้าใกล้ แต่เทพยดาอารักษ์จะรู้จักว่านชนิดนี้ดี

๖๓.ว่านพรายแก้ว เป็นว่านคงกระพันชาตรี เป็นเสน่ห์มหานิยมสำหรับร้านค้าขาย

๖๔.ว่านมหานิยม
ตรงตามชื่อ เป็นเมตตามหานิยม สิริมงคล ต่อผู้ครอบครอง

๖๕.ว่านแม่ทัพ
มีอานุภาพทางคงกระพันชาตรี เพิ่มพูนตบะเดชะ อำนาจบารมี

๖๖.ว่านมหาเมฆ เป็นว่านนิยมมาตั้งแต่โบราณ ดีทางคลกระพันชาตรี เป็นตบะเดชะ

๖๗.ว่านมหาปราบ
สรรพคุณดีทางฤทธิ์และอำนาจ อยู่ยงคงกระพัน ป้องกัน ภูติ ผี ปีศาจ ได้ดียิ่งนัก

๖๘.ว่านมรกต
ดีทางคงกระพันชาตรี เป็นตบะเดชะ

๖๙.ว่านมหาเสน่ห์
อานุภาพดีทางเสน่ห์มหานิยม เป็นว่านมีอานุภาพชั้นสูง ดึงดูดจิตใจ

๗๐.ว่านมหาอุดม
เป็นว่านมหานิยมสูงมาก เป็นที่รักใคร่ เมตตาแก่ผู้ที่พบเห็น

๗๑.ว่านมหาจักรพรรดิ
ใช้ดีทางเมตตามหานิยม มีอิทธิฤทธิ์ทางคุ้มครองเคหสถานบ้านเรือน ป้องกันเสนียดจัญไร อีกชื่อคือ ว่านอรหันต์แปดทิศ

๗๒.ว่านมหากวัก
อานุภาพ สิริมงคล ส่งเสริมกิจการธุรกิจการค้าและเจริญก้าวหน้า เข้าเจรจากับผู้ใหญ่เป็นที่รักของผู้คนโบราณเอาว่านนี้ แช่น้ำมนต์ประพรมร้านค้า จะค้าขายดีมาก

๗๓.ว่านรางจืดเถา
มีอานุภาพทางถอนพิษ ถอนยาสั่งโบราณว่าว่านนี้มีค่า 5,000 ตำลึงทอง ดังนั้นต้องเป็นว่านที่ไม่ธรรมดา

๗๔.ว่านภควัมบดี
มีอานุภาพเป็นศรีสง่า สิริมงคลนำโชคลาภบันดาลให้เจริญด้วยโภคทรัพย์ มีความอุดมสมบูรณ์และอยู่เย็นเป็นสุข

๗๕.ว่านศรนารายณ์
มีอานุภาพทางคงกระพันชาตรี และเมตตามหามงคล

๗๖.ว่านสามพันตึง
มีอานุภาพทางอยู่ยงคงกระพันชาตรี ต่อศัตราวุธทั้งปวง

๗๗.ว่านสามกษัตริย์
เป็นเมตตามหานิยมรักใคร่และความเจริญรุ่งเรือง

๗๘.ว่านสาวหลง

๗๙.ว่านเหล็กไหล
ดีทางด้านคงกระพันชาตรี มีตบะเดชะ

๘๐.ว่านพัดแม่ชี
มีอานุภาพสูงทางด้านปัดเป่าสิ่งอัปมงคล ป้องกันอำนาจคุณไสย และผู้ที่คิดร้าย ว่านี้ใช้ถอนคุณไสยได้

๘๑.ว่านอุมาวดี
มีอานุภาพบันดาลให้ประสบโชคลาภ ความร่มเย็นเป็นสุข

๘๒.ว่านกวักพระพรหม

๘๓.ว่านกระบี่ทอง
มีสรรพคุณทางคงกะพันชาตรี

๘๔.ว่านกุมารทอง
มีสรรพคุณทางด้านคงกระพันชาตรี ค้าขายดี มีกำไรเป็นสิริมงคลทั้งยังมีอำนาจ มีเทวดารักษาคุ้มครอง

๘๕.ว่านกาสัก
มีอานุภาพทางคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ปลอดภัย

๘๖.ว่านกบ
เป็นว่านมีเทพรักษา มีอานุภาพทางด้านคงกระพันชาตรี ป้องกัน ไม่ให้ภัยพิบัติมาแผ้วพาล

๘๗.ว่านขมิ้นขาวเสน่ห์
ดีทางด้านเมตตามหานิยม ทั้งยังเป็นเมตตามหานิยม

๘๘.ว่านเขียวพันปี
ให้คุณทางด้านเมตตามหานิยม

๘๙.ว่านพระยาค่าง
ให้คุณทางด้านคงกระพันชาตรี

๙๐.ว่านเฉลิม
ตำราว่านกล่าวว่า ว่านนี้ดีทางเมตตามหานิยม คนเห็นคนรักคนชอบ

๙๑.ว่านเณรแก้ว
เป็นเมตตามหานิยมและคงกระพันชาตรี

๙๒.ว่านรางเงิน
เป็นสิริมงคลและเมตตามหานิยมโชคลาภ

๙๓.ว่านรางทอง
เป็นสิริมงคลและเมตตามหานิยมโชคลาภ

๙๔.ว่านรางนาค
เป็นสิริมงคลและเมตตามหานิยมโชคลาภ

๙๕.ว่านสิทธิโชค
เป็นว่านที่มากด้วยสรรพคุณทางเมตตามหานิยม ทำให้ประสบโชคลาภ

๙๖.ว่านแสนนางล้อม
เป็นว่านที่มีสิริมงคลและป้องกันอัคคีภัยได้

๙๗.ว่านเสือสามทุ่ง
มีอานุภาพทางด้านบารมี ปกป้อง คุ้มครองเป็นตบะเดชะอำนาจ

๙๘.ว่านปู่โสมเฝ้าทรัพย์
มีอำนาจเดชบารมี อยู่ที่ใดมักมีทรัพย์สมบัติมิได้ขาด

๙๙.ว่านแสงอาทิตย์
มีอิทธิฤทธิ์อำนาจ ความร่มเย็นเป็นสุข

๑๐๐.ว่านสบู่เหล็ก
มีสรรพคุณทางคงกระพันชาตรี

๑๐๑.ว่านหอมดำ
เป็นว่านมีอานุภาพทางคงกระพันชาตรี

๑๐๒.ว่านหางเสือ
มีอานุภาพทางด้านป้องกัน ภูติ ผี ปีศาจ และคุณไสยต่างๆ

๑๐๓.ว่านพญาหงส์เงิน
ดีทางด้านเมตตามหานิยมและเดชอำนาจ

๑๐๔.ว่านลิ้นกระทิงลาย
ดีทางเมตตามหานิยมและคงกระพันชาตรี ป้องกันอันตรายจากหมู่มาร

๑๐๕.ว่านกลิ้งกลางดง
มีสรรพคุณทางด้านคงกระพันชาตรี

๑๐๖.ว่านสบู่เลือด
ดีทางด้านคงกระพันชาตรี โบราณนิยมมาสร้างพระ เช่น พระผงน้ำมัน วัดชนะสงคราม

๑๐๗.ว่านท้าวชมพู
ดีทางคงกระพันชาตรี

๑๐๘.ว่านชมพูหนังแห้ง
ดีทางคงกระพันชาตรีป้องกันศัตราวุธ เป็นว่านที่ดีมาก