ปลัดขิกหลวงพ่อคงวัดวังสรรพรส

ปลัดขิกทรงลูกฟักงาช้าง
หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส สุดยอดพระเกจิอาจารย์จอมขมังเวทย์แห่งท้องทะเลตะวันออกจังหวัดจันทบุรี เชี่ยวชาญในประเวทย์วิธี อันประกอบด้วยพุทธะคมทางพระพุทธศาสนา ท่านสมเด็จอภิญญาทั้ง ๖ มีฤทธิ์มาก สำเร็จวิชาเสือสมิง สามารถจำแลงแปลงกายเป็นเสือโคร่งใหญ่ได้อย่างอัศจรรย์ ท่านได้สรรค์สร้างเครื่องรางของขลังไว้มากมายหลายชนิด แต่ที่โด่งดังและมีชื่อมากที่สุดอย่างหนึ่ง ก็คือ ปลัดขิก ปลัดขิกหลวงพ่อคงนั้น โดดเด่นมากในด้านเสน่ห์เมตตามหานิยมค้าขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เป็นมหาละลวย ทั้งยังป้องกันภยันตรายอสรพิษเขี้ยวงา กับลมกันฝน และยังป้องกันศาสตราวุธอยู่ยงคงกระพันชาตรี มีฤทธิ์อานุภาพขอบด้านเลยทีเดียว
วิชาปลัดขิกของหลวงพ่อคงนั้น ท่านร่ำเรียนไสยศาสตร์วิชาปลัดขิก มาจากหลวงพ่อเหลือวัดสาวชะโงก และเรียนจากฆราวาสครูตาสด เป็นต้น
ส่วนปลัดขิก ที่นับว่าเป็นของหายากและโดดเด่นมากอีกรุ่นหนึ่งก็คือ ปลัดขิกทรงลูกฟัก ที่มีลักษณะคล้ายกับผลของลูกฟัก โดยได้รับอิทธิพลจากปลัดขิกก้นลูกแก้วของหลวงพ่อเหลือวัดสาวชะโงก ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่าน มาเป็นต้นแบบในการสรรสร้างแกะปลัดขิกของสำนักวัดวังสรรพรส ปลัดขิกรุ่นนี้แกะด้วยงาช้าง กำจัดกำจัด ที่พระอาจารย์ปลัดวิทย์ ได้รับมอบมาจากลูกศิษย์ที่วัดภาณุรังษี กรุงเทพมหานคร
โดยได้ให้บูชาได้ที่วัดวังสรรพรส และติดต่อเช่าบูชา ด้วยการสั่งจ่ายธนาณัติ ผ่านนิตยสารพระเครื่องในอดีตที่โด่งดัง เช่นนิตยสารมหาโพธิ์ นิตยสารพุทโธ เป็นต้น ให้บูชาในปีพ.ศ. 2529 ปลัดขิกทรงลูกฟักงาช้างให้บูชาสมัยนั้น ตัวละ 300 บาท
ปลัดขิกรุ่นนี้ พระ อาจารย์ปลัดสุวิทย์ ศิษย์เอกพระฐานานุกรมหลวงพ่อคง ได้ครอบมือครอบครู จารปลัดขิกแทนท่านพ่อคงทั้งหมด ปลัดขิกทรงลูกฟักนี้ จารคาถาวิเศษสำคัญ ประจำสำนักวัดวังสรรพรส โดย หัวปลัดขิก จารยันต์สตรี อันมีฤทธิ์อนุภาพทางด้านเมตตามหาเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม อย่างอัศจรรย์ แก้มปลัดขิกด้านซ้าย ลงหัวใจพระศิวะเจ้าคือ อักขระขอมที่จารว่า โอม อันมีอานุภาพวิเศษเหนือประมาณเป็นมหาโภคทรัพย์ตกไปอยู่สถานที่ใดย่อมมีเทพยดามาคุ้มครอง ลงบทย่อหัวใจคาถาเร่งลาภ ด้วยอักขระ ว่า “ มิ ”ที่ย่อมาจาก มิเตพาหุหะติ ส่วนแก้มปลัดขิกด้านขวา ก็ลงอักขระหัวใจพระศิวะเจ้า โอม เช่นกัน และลงหัวใจคาถามหาเมตตา คืออักขระตัว “ ปิ ”อันเป็นห้องอักขระในบทรัตนมาลา ที่ว่า
“ปิโย เทวะมะนุสสานัง ปิโย พรหมานะมุตตะโมปิโย นาคะสุปันนานัง ปิยินทรี ยังนะมามิหัง” ซึ่งบทคาถานี้วิเศษนักเป็นมหาเสน่ห์มหาเมตตาอย่างยิ่งใหญ่ เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
ส่วนลำตัวของปลัดขิกนั้น จะลงคาถาหัวใจโจร คือ “ กัณหะเนหะ ” พระคาถาบทนี้เป็นแม่บทใหญ่ที่ใช้ในการลงปลัดขิกที่มีมาแต่โบราณกาล ครั้งตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ถือกันว่าคาถาบทนี้ เมื่อลงใส่ปลัดขิกแล้ว ย่อมมีคุณวิเศษมาก ใช้ทางเมตตาค้าขายดีเยี่ยม บังเกิดทรัพย์สินเงินทองขึ้นอย่างอัศจรรย์มีโชคอย่างคาดไม่ถึง ประดุจมหาโจร ที่สามารถหาเงินหาทองได้อย่างง่ายดาย และคาถาหัวใจโจรนี้ยังอยู่ยงคงกระพันกันเขี้ยวงาอสรพิษได้ดีเยี่ยม ต่อด้วยคาถาหัวใจพระธรรมบท คือ “ ทุสะนะโส ” พระคาถาบทนี้ มีคุณทางป้องกันภูตผีปีศาจวิญญาณร้ายตลอดจนทั้งคุณไสย์มนต์ดำทั้งปวง ต่อด้วยคาถาหัวใจพญาเหล็กคือ “ อุโลปะสุโล ”อันเป็นวิชาเอกที่หลวงพ่อคงท่านได้ให้ลูกศิษย์ต่างๆช่วยจารลงใส่ปลัดขิก เพื่อให้เกิดอนุภาพ ทางอยู่ยงคงกระพันป้องกันปืนอาวุธมีดหอกดาบแหลมหลาวทั้งปวง ต่อด้วยคาถาหัวใจอุณลุม คือ “ อุปะสัมปะ ” เป็นสุดยอดคาถาทางมหาเสน่ห์เมื่อภาวนาแล้วเอาปลัดขิกไปจิ้มใคร คนนั้นจะต้องไสยศาสตร์มหาเสน่ห์แก่เรา ทำให้อ่อนอกอ่อนใจเชื่อฟังเราและมีใจประดิพัทธ์ต่อเรา ต่อด้วยคาถามหาเมตตาใหญ่ของหลวงพ่อคงคือ “อุอะปะมินิสะสุตังปิยังมะ” เป็นสุดยอดคาถาทางด้านเมตตาสูงสุดใครพบเห็นเราล้วนเมตตาหมดสิ้นทำให้มีคนอุปถัมภ์ค้ำชูเรา และมีการลงคาถาหัวใจธาตุทั้งสี่ คือ “ นะมะพะทะ ” อันเป็น คาถาแม่บทหลักที่เสริมอนุภาพให้เครื่องรางเครื่องประจุนั้นมีฤทธานุภาพเนื้อสมมุติบัญญัติในทางโลกอย่างไม่มีประมาณ
หากสรุปโดยรวมแล้ว ปลัดขิกของหลวงพ่อคงนั้น มีอานุภาพมากใช้ได้สารพัดทางทั้งทางด้านเมตตาค้าขายหรือทางด้านเสน่ห์เจรจาทางด้านธุรกิจก็จะทำให้ประสบความสำเร็จดังใจหมาย เมื่อพกไว้ติดตัวคู่กายย่อมบังเกิดมงคลแก่ตัวประกอบสัมมาชีพก็จะรุ่งเรืองเป็นเครื่องป้องกันอำนาจลี้ลับที่เราไม่สามารถมองเห็นป้องกันอุบัติภัยอันตรายจากการเดินทางตลอดจนทั้งสัตว์ร้ายไม่กล้ากล้ำกรายแก่เรา หลวงพ่อคงนี้ ท่านมีอภิญญามาก เมื่อปลุกเสกคราใด ย่อมบังเกิดปาฏิหาริย์ปลัดขิกย่อมเคลื่อนไหวดุจมีชีวิต ดิ้นกระโดดได้อย่างอัศจรรย์ จนมีเรื่องเล่ากันว่าท่านต้องปลัดขิกล่ามโซ่เสกเลยทีเดียวถ้าตัวไหนไม่ได้ผูกโซ่หรือมัดเชือกไว้ด้วยอำนาจแห่งพุทธาคมและอำนาจจิตอันเข้มแข็งแก่กล้าท่านถึงกับเสกปลัดขิกลอย ทะลุกระเบื้องหลังคาศาลาการเปรียญมาแล้ว ปลัดขิกของหลวงพ่อคงนีั ใช้ได้ทั้งทั้งทางและบู๋นและบู๊ นับเป็นเครื่องรางปลัดขิก ที่มีอนุภาพคุณวิเศษสุดจะพรรณา ประสบการณ์เล่าขานกันมาตั้งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผู้ที่ได้ใช้เท่านั้นถึงจะพึ่งรู้ในเครื่องรางไสยศาสตร์อันมีนามว่า “ปลัดขิก”