เบี้ยแก้หลวงพ่อโปร่ง วัดท่าช้าง

เบี้ยขลัง เมืองวิเศษชัยชาญ

เบี้ยแก้หลวงพ่อโปร่ง วัดท่าช้าง

เบี้ยแก้หลวงพ่อโปร่ง ยุคแรกๆ ราวปี 2500 วัดท่าช้าง พระคณาจารย์ครูเบี้ยสายอ่างทอง หลวงพ่อโปร่ง วัดท่าช้าง ท่านเป็นพระยุคเดียวกับหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ แต่หลวงพ่อโปร่งท่านอายุน้อยกว่า หลวงพ่อโปร่งท่านมีพรรษาในยุคหลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรี ท่านบวชครั้งที่สองโดยมีหลวงพ่อคำ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อโปร่งท่านเป็นพระหมอยารักษาคนบ้าคนถูกคุณไสย มีอยู่ครั้งหนึ่งคนบ้าที่มาให้ท่านรักษาเกิดคลุ้มคลั่ง คว้ามีดล็อคคอหลวงพ่อแล้วปาดคอหลวงพ่อ แต่ท่านไม่เป้นไรเลยและท่านก็ไม่โกรธคนบ้าคนนั้นด้วย หลวงพ่อโปร่งท่านเป็นที่นับถือของคนละแวกวัดเป็นอย่างมากเพราะเขาได้รู้เห็นมาโดยตลอดว่าท่านเป็นอย่างไร แต่คนไม่นำประวัติท่านมาเผยแพร่มากนักเลยพาทำให้คนนอกไม่รู้จักท่านไป จริงๆแล้วท่านเก่งมากครับ และหลังจากท่านมรณะภาพ ท่านก็ไม่เน่าเปื่อย สังขารท่านยังอยู่ที่วัดจนปัจจุบัน ประสบการณ์ที่เขาพบกันก็คงกระพัน แคล้วคลาดเด่นชัดมากๆ เป็นพระคณาจารย์สายอ่างทองที่เก่งมากองค์หนึ่ง เบี้ยแก้ของท่านในหมู่ลูกศิษย์เจอกันมาเยอะครับ คนไกล้เท่านั้นที่ทราบ แถมหายาก ท่านสร้างเบี้ยตั้งแต่ท่านอายุ 27 ปี หรือราวปี 2480 จุดดูว่าเป็นเบี้ยแก้หลวงพ่อโปร่ง ถ้ามีพื้นฐานการดูเบี้ยอยู่แล้วคือ สีเบี้ยเก่าซีดอมน้ำตาลแก่อ่อนขึ้นอยู่กับความเก่าของเบี้ย ผิวเคลือบเบี้ยจะไม่เงาแว๊ปแบบเบี้ยไหม่ แต่จะเงาแบบด้านๆในเบี้ยเก่าที่ไม่ได้ใช้ ตามรูป ใต้ทองเบี้ยอุดด้วยชันนะโรงผสมผงยาหรือชันนะโรงล้วนๆขึ้นอยู่กับช่วงที่ทำ เพราะทำเรื่อยๆ จุดสำคัญของเบี้ยหลวงพ่อโปร่งคือ มีแผ่นตะกั่ว บางตัวฝังลงไปในเนื้อชันนะโรงและปิดทองทับ ไม่เห็นแผ่นตะกั่ว ต้องเอาเข็มจิ้มๆดูจึงจะรู้ บางตัวแผ่นตะกั่วอยู่ด้านนอก ให้เห็นชัดเจน ไม่ปิดทองก็มี และหลังจากท่านมรณะภาพ ท่านก็ไม่เน่าเปื่อย สังขารท่านยังอยู่ที่วัดจนปัจจุบันครับ ประสบการณ์ที่เขาพบกันก็คงกระพัน แคล้วคลาดเด่นชัดมากๆ เป็นพระคณาจารย์สายอ่างทองที่เก่งมากองค์หนึ่ง. เบี้ยท่านมีค่าควรเมือง และใช้ได้ผลจริง เป็นอีกหนึ่งเครื่องรางของเมืองวิเศษฯ ที่ควรสะสมและอนุรักษ์อย่างยิ่ง....